ดื่มน้ำอย่างไรให้ได้ประโยชน์
"น้ำ"
สามารถใช้ชะลอความแก่ และสามารถบำบัดรักษาโรคได้ เราสามารถใช้น้ำเพื่อบำบัดรักษาโรคได้หลายโรค มีการพิสูจน์จนยอมรับว่าสามารถบำบัดรักษาโรคเหล่านี้ได้ผล 100% (แต่ต้องค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ต้องใช้ระยะเวลานะคะ) ตัวอย่างเช่น อาการปวดหัว อาการปวดตามตัว โรคระบบหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ โรคหัวใจเต้นเร็ว โรคลมบ้าหมู โรคอ้วน โรคหลอดลมอักเสบ โรคหืด วัณโรค อาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ไขสันหลังอักเสบ โรคไต และยูริก โรคแสลงคลื่นไส้ต่าง ๆ โรคกระเพาะ โรคท้องร่วง โรคริดสีดวง โรคเบาหวาน โรคอาการท้องผูก โรคตา โรคภายในสตรี มะเร็ง และรอบเดือนไม่ปกติ โรคคอ หู จมูกเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าน้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในร่าางกายมากถึง 70% คุณทราบไหมค่ะว่าการดื่มน้ำควรดื่มน้ำเวลาไหนถึงจะให้ประโยชน์สูงสุด ถ้าใครยังไม่ทราบวันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ
การดื่มน้ำที่ถูกต้องไม่ใช่ดื่มกันวันละ 8-10 แก้วให้หมดในคราวเดียวเลยน่ะคะแต่เราควรค่อย ๆ ดื่ม ดื่มตอนไหนเวิร์กสุด
เวลาตื่นนอนตอนเช้า ก่อนแปรงฟัน
ให้ดื่มน้ำ 1 แก้ว (400ซีซี) เพราะเป็นช่วงที่เลือดมีความเข้มข้นสูงเลือดมีลักษณะขาดน้ำนั่นเองAdvertisement
เวลา 09.00-10.00น. ดื่ม 2 แก้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่ร่างกายมีของสียเกิดขึ้นจึงควรดื่มน้ำมาชำระของเสียเหล่านั้นออกไป
เวลา 13.00-14.00น. ดื่ม 3 แก้ว เป็นเพราะช่วงนี้เป็นภาวะขาดน้ำจะทำให้รู้สึกง่วงนอนหากดื่มช่วงเวลานี้จะทำให้เราสดชื้นและมีความคิดที่ดี
เวลา 19.00-20.00น. ดื่ม 3 แก้ว
ก่อนนอนต้องดื่มอีก 1 แก้ว เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียนชำระล้างางสิ่งตกค้างในลำไส้และกระเพาะอาหารยิ่งถ้าเป็นน้ำอุ่นแล้วจะยิ่งทำให้เราหลับสบายขึ้นอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าการดื่มน้ำเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกายทำได้ง่ายนิดเดียว เราจึงควรดื่มน้ำอย่างน้อย วันละ 8-10 แก้ว นอกจากจะทำให้สุขภาพดีแล้วยังช่วยให้ผิวสวยไม่แห้งตึงอีกด้วย
...........................
ข้อมูลจาก https://www.sanook.com/women/18168/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น